ประกันรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องมีการทำประกันเอาไว้ โดยประกันภัยรถยนต์นั้นจะมีด้วยกัน 2 ประเภทหลัก ๆ เลยก็คือ ประกันภัยรถยนต์แบบบังคับที่เราจะต้องทำกับขนส่ง และประกันรถยนต์อิสระที่เราสามารถซื้อกรมธรรม์กับบริษัทที่เปิดให้บริการได้ ในบทความนี้ baannongmeaw ก็เลยจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับประกันรถยนต์แบบต่าง ๆ กัน แล้วเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับคุณมากที่สุด ตามไปดูกันเลย!
รู้จักประกันรถยนต์ในแต่ละชั้น
ประกันรถยนต์เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องทำเอาไว้ ซึ่งประกันรถยนต์นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 5 ชั้นด้วยกัน และแต่ละชั้นจะมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งประกันแต่ละแบบจะมีการคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
1) ประกันชั้น 1
ประกันชั้น 1 เหมาะกับคนที่พึ่งออกรถป้ายแดงมา และต้องการการคุ้มครองดูแลที่ครอบคลุม รวมถึงอยากให้รถดูใหม่เหมือนเพิ่งออกมาจากศูนย์ เจ้าประกันรถยนต์ชั้น 1จะมีความคุ้มครองสูงสุด หรือคุ้มครองดูแลรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี รวมไปถึงคนที่ยังขับรถไม่ค่อยแข็ง มักจะเฉี่ยว ชนได้ง่ายกว่า ทั้งแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี และคนที่ชอบขับรถเร็ว ใช้รถบ่อย ๆ และต้องขับรถทางไกลบ่อย ๆ
2) ประกันชั้น 2
ประกันชั้น 2 จะเหมาะกับคนที่มีรถอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป ซึ่งมีความชำนาญ และคล่องตัวเป็นอย่างมากในารขับขี่ เลยต้องการได้รับการคุ้มครองรถยนต์ในกรณีสูญหาย ไฟไหม้ และการคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก ที่จะช่วยสินไหมทดแทนให้กับคุณหรือคู่กรณีเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ซึ่งการใช้ประกันชั้น 2 ดูจะไม่ครอบคลุม และตอบโจทย์ต่อการใช้งานของผู้ขับขี่รถยนต์มากนัก จึงทำให้ผู้ขับขี่หลาย ๆ คนเลือกที่จะใช้ประกันชั้น 2+ มากกว่า
3) ประกันชั้น 2+
เนื่องจากการใช้ประกันชั้น 2 นั้นไม่ครอบคลุมกับการคุ้มครองเรื่องต่าง ๆ ให้กับผู้ใช้รถได้มากนัก แต่หากอยากได้รับการคุ้มครองที่แทบจะเหมือนกับประกันชั้น 1 ก็ต้องเป็นประกันชั้น 2+ นี่เลย เพิ่มเงินจากประกันชั้น 2 มาอีกนิดหน่อยก็สามารถใช้ประกันชั้น 2+ ได้แล้ว โดยจะเพิ่มความคุ้มครองในเรื่องของความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายของผู้ขับขี่ หรือกรณีที่ผู้โดยสาร ความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร เป็นต้น
4) ประกันชั้น 3
ประกันชั้น 3 จะมีความคล้ายคลึงกับประกันชั้น 2 เลยล่ะ แต่จะมีการคุ้มครองที่น้อยกว่าลงมา และจะเป็นการให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก โดยความคุ้มครองที่ได้รับ จะเป็นการที่ทางบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบต่อความเสียหายทรัพย์สิน ชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนรถนั่นเอง
5) ประกันชั้น 3+
ส่วนประกันชั้น 3+ จะคล้ายกับประกันชั้น 2+ เลยล่ะ แต่ประกันรถยนต์ 3+ จะไม่ได้ให้ความคุ้มครองความเสียหายของรถในกรณี สูญหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วม เหมาะกับคนที่ต้องการซื้อไว้คุ้มครองในกระณีเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ซึ่งมันเป็นประกันที่เหมาะกับคนที่มีรถยนต์ทั่วไปที่ไม่ค่อยได้ใช้งานหรือรถที่มีอายุมากกว่า 10 ขึ้นไป และไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพรถก่อนที่จะทำประกัน
ข้อสรุป เราควรเลือกประกันรถยนต์ชั้นไหนดีที่สุด
สำหรับใครที่มีรถใหม่ หรือรถยนต์มีอายุการใช้งานไม่ถึง 7 ปี เราแนะนำให้ซื้อประกันชั้น 1 เพราะจะได้รับตวามคุ้มครองสูงสุดและครอบคลุมมากที่สุด แต่ใครที่มีรถอายุเกิน 7 ปี แต่ยังไม่ถึง 10 ปี เราแนะนำให้ซื้อประกันชั้น 2+ เพราะมีความใกล้เคียงกับชั้น 1 และผู้ขับก็มีประสบการณ์ในการขับมาพอสมควร อุบัติที่จะเกิดคงจะน้อยกว่ามือใหม่หัดขับ แต่ใครที่มีรถอายุเกิน 10 ปี เราแนะนำให้ซื้อประกันชั้น 3+ เพราะจะช่วยคุ้มครองกรณีเกิดรถชน และได้รับการคุ้มครองทั้งตัวเราและคู่กรณี
แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกประกันภัยรถยนต์ให้เหมาะสมกับเรานั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเลย หากคุณเลือกประกันแต่ละชั้นที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่ของตัวคุณเอง และเหมาะสมกับอายุรถยนต์ แค่นี้คุณก็จะได้เลือกซื้อประกันที่คุ้มค่า และเหมาะสมต่อการใช้งานแล้ว แถมยังช่วยคุณวางแผนการเงินให้มั่นคงให้สามารถใช้เงินในการซื้อประกันแต่ละครั้งได้สบาย ไม่ต้องห่วงเรื่องการคลุมครองที่จะกระทบต่อเงินในบัญชีของเรา
แนะนำบทความน่าอ่านด้านการลงทุน : เปิด 4 อาชีพ ที่ทุนน้อยต่อยอดให้งอกเงยได้
