เงินฝากปลอดภาษี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีออมเงินที่น่าสนใจมากในยุคนี้ เพราะนอกจากจะเหมาะกับคนที่มีเงินน้อย อยากทยอยออมเงินไปทุกเดือนแล้ว ยังเหมาะกับคนที่เก็บออมเงินไม่ค่อยอยู่ เพราะบัญชีนี้จะช่วยให้เราทำตามวินัย เก็บเงินก้อนได้ในระยะยาว ยิ่งถ้าเลือกบัญชีเงินฝากปลอดภาษีดอกเบี้ยสูง ๆ ก็ยิ่งได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากใครยังไม่รู้ว่า เงินฝากปลอดภาษีคืออะไร และมีเงื่อนไขในการฝากอย่างไร กันเลย
เงินฝากปลอดภาษี คืออะไร ฝากแล้วไม่เสียภาษีจริงหรือไม่

เงินฝากปลอดภาษี คือ บัญชีเงินฝากประจำที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 24 เดือน, 36 เดือน และ 48 เดือนขึ้นไป และระยะเวลาการฝากขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร โดยมีข้อกำหนดคือ เมื่อเปิดบัญชีแล้วจะต้องฝากเงินเป็นจำนวนเท่ากันทุกเดือน เช่น ฝากเดือนละ 1,000 บาท ทุกเดือนจนครบกำหนดระยะเวลาฝาก จึงจะได้รับดอกเบี้ยตามเงื่อนไข ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยของ เงินฝากปลอดภาษี แต่ละธนาคาร จะให้สูงกว่าเงินฝากประจำทั่วไป และไม่ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เหมือนดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินฝากประจำด้วย เนื่องจากเป็นประเภทบัญชีที่ได้รับยกเว้นจากกรมสรรพากร เท่ากับว่าคนที่ฝากบัญชีเงินฝากปลอดภาษีจะได้รับผลตอบแทนแบบเต็ม ๆ เมื่อฝากครบระยะเวลาตามเงื่อนไขที่กำหนด
เงินฝากปลอดภาษี มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่ควรรู้
สำหรับเงื่อนไขของบัญชี เงินฝากปลอดภาษี ที่ทุกธนาคารกำหนดเหมือนกันเลยก็คือ 1 คน สามารถเปิดบัญชีเงินฝากปลอดภาษี ได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น ส่วนเงื่อนไขอื่น ๆ ของแต่ละธนาคารก็จะแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- จำนวนเงินนำฝากขั้นต่ำ 500-1,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร สูงสุดไม่เกิน 16,500-25,000 บาท/เดือน
- ต้องฝากเงินในจำนวนเท่า ๆ กัน เดือนละ 1 ครั้ง วันที่เท่าไรก็ได้ ขาดฝากได้ไม่เกิน 2 ครั้ง
- หากขาดฝากเกิน 2 ครั้ง จะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามเงื่อนไขเงินฝากปลอดภาษี
- หากถอน หรือปิดบัญชีก่อน 3 เดือน จะไม่ได้รับดอกเบี้ย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร
- ไม่สามารถถอนก่อนครบกำหนดได้ หากถอนก่อนครบกำหนดต้องปิดบัญชีเท่านั้น
- จะได้รับดอกเบี้ยเมื่อฝากครบเวลาที่กำหนด
เงินฝากปลอดภาษี เลือกฝากธนาคารไหนดีดอกเบี้ยสูง

1. ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย
เงินฝากปลอดภาษี มีระยะเวลาฝาก 24 , 36 เดือน ดอกเบี้ย 2.75%- 2.65% เงื่อนไขคือ เปิดบัญชีและฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท โดยจำนวนเงินฝากรวมตลอดระยะเวลาฝาก ต้องไม่เกิน 600,000 บาท หากฝากไม่ถึง 3 เดือน ถอนได้แต่ไม่ได้รับดอกเบี้ย ฝากล่าช้าได้ไม่เกิน 2 งวด แต่ต้องฝากให้ครบ 24 หรือ 36 เดือนภายในระยะเวลาที่เลือกไว้
2.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
เงินฝากปลอดภาษี มีระยะเวลาฝาก 24 , 36 เดือน ดอกเบี้ย 2.75%- 2.60% เงื่อนไขคือ เปิดบัญชีขั้นต่ำ 500 บาท ฝากเกิน 3 เดือน แต่ไม่ครบระยะเวลาฝาก จะได้รับดอกเบี้ยในอัตราเงินฝากออมทรัพย์บุคคลธรรมดาขั้นต่ำสุด ตามประกาศของธนาคาร ณ วันที่ฝาก และหักภาษี ณ ที่จ่าย และเมื่อฝากครบกำหนด และไม่มาปิดบัญชีภายใน 1 เดือน ธนาคารจะเปลี่ยนบัญชีเป็นเงินฝากประจำ 6 เดือน
3.ธนาคารออมสิน
เงินฝากประจำรายเดือนยกเว้นภาษี 24 เดือน ดอกเบี้ย 2.65% โดยรับฝากตั้งแต่อายุ 7 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันเปิดบัญชี เงื่อนไขคือขาดฝากได้ไม่เกิน 2 เดือน โดยระยะเวลาครบกําหนดจะเลื่อนออกไป รวมระยะเวลาการฝากไม่เกิน 26 เดือน หากขาดฝากเกิน 2 ครั้ง จะไม่สามารถฝากต่อได้ ต้องถอนปิดบัญชีเท่านั้น และจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเผื่อเรียก ณ วันถอนเงิน และหักภาษี ณ ที่จ่าย
แนะนำ 3 วิธีการออมแบบประหยัดและปลอดภาษี สำหรับมือใหม่
1. เงินฝากออมทรัพย์
ฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ทุกบัญชีทุกธนาคาร ส่วนที่ดอกเบี้ยรับรวมไม่เกิน 20,000 บาทต่อปีได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี หากใครได้รับดอกเบี้ยรับรวมเกิน 20,000 บาท ก็ต้องเสียภาษีตั้งแต่บาทแรก ไม่ใช่เสียเฉพาะส่วนที่ยกเว้น และรวมถึงบัญชีออมทรัพย์ประเภทต่างๆ ด้วย เช่น ฝากไม่ประจำ ออมทรัพย์พิเศษ
>> วิธีเก็บเงิน ด้วย 3 เทคนิคง่าย ๆ ในยุค New Normal
2. เงินฝากประจำปลอดภาษี
ฝากประจำที่ช่วยในเรื่องของระเบียบวินัยในการออม เพราะต้องฝากเท่ากันทุกเดือน โดยมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 24 เดือน และมีเงินฝากแต่ละครั้งไม่เกิน 25,000 บาท หรือรวมทั้งหมดไม่เกิน 600,000 บาท ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี แต่ก็มีข้อจำกัดคือเงินฝากประจำแบบปลอดภาษีมีได้แค่คนละ 1 บัญชีเท่านั้น
3. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
อีกหนึ่งรูปแบบการ เงินฝากปลอดภาษี คือการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ อาจจะไม่ได้ถือเป็นการออมซะทีเดียวแต่ก็เข้าข่ายได้รับผลตอบแทนแบบไม่ต้องเสียภาษี เพราะได้หลักประกันเป็นความคุ้มครองชีวิต และมีผลตอบแทนที่ดี มีเงินคืนทุกปีและรับเงินก้อนเมื่อครบสัญญา ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ อีกทั้งค่าเบี้ยประกันภัยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด มีดีหลายต่อกันเลยทีเดียว